Video on Demand ด้วย HTML 5

เมื่อกลางปีพ.ศ. 2553 ผมได้กล่าวถึงเรื่อง  Video on demand กับ HTML 5 ไว้ว่าจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ต้องการสร้างระบบ Video On Demand  เวลาผ่านมาจนถึงวันนี้ (มีนาคม 2555) ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ผมมองว่า HTML5 อาจจะไม่ใช่ทางเลือกแต่อาจจะมาแทนที่ระบบที่เป็น Flash video เลยก็ได้ ทำไม ?

1. มีวิดีโอหลาย Format ได้แก่วิดิโอไฟล์ที่มีนามสกุลเหล่านี้  .mp4, .webm, .ogg  นั่นหมายถึงทางเลือกมีมากกว่า

2. ต้นทุนด้านลิขสิืทธิต่ำกว่า  เป็นที่ค่อนข้างแน่นอนว่าการเผยแพร่วิดีโอที่มีนามสกุล  webm และ .ogg นั้นไม่มีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ แต่ .mp4 นั้นอาจจะมีการเก็บ ซึ่ง flash video ใน format นี้และ .flv

3. ได้รับการสนับสนุนจากทั้งผู้ผลิตเว็บบราวเซอร์และผู้ให้บริการ แม้แต่ IE เองก็ยังให้การสนับสนุน ดูได้จากเว็บนี้ http://tools.google.com/dlpage/webmmf  หรือยักษ์ใหญ่อย่าง Youtube ก็ยังสร้างเว็บใหม่ขึ้นมาเพื่อทดสอบการให้บริการด้วย  HTML5 (http://www.youtube.com/html5)

4. การติดตั้งระบบให้บริการง่ายกว่าเพราะเหมือนกับการติดตั้งระบบ Web Server ทั่วไป

5. ปัจจุบันต้องยอมรับว่ากระแสการใช้งานอุปกรณ์พกพานั้นมาแรง และอุปกรณ์จากค่ายดังแห่งหนึ่งก็ไม่ยอมที่สนับสนุนการใช้งาน Flash Video เลย ดังนั้นการให้บริการด้วย Flash Video ก็อาจจะสูญเสียลูกค้ากลุ่มนี้ไปได้ง่าย ๆ

ถึงแม้เราจะพบข้อดีของระบบบริการ HTML5 Video มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังข้อที่ต้องพิจารณาอยู่เหมือนกัน ได้แก่

1. HTML5  Video เป็นกลุ่มที่เรียกว่า lossy codec หรือกลุ่มที่ไม่ค่อยให้ความสนใจกับคุณภาพมากนัก ดังนั้นคุณภาพของวิดีโอที่ออกมาอาจจะด้อยกว่าระบบที่เป็น Flash Video อยู่

2. HTML5 Video ยังไม่สนับสนุนแนวคิดแบบ Adaptive  หรือระบบที่สามารถเลือก resolution ของวิดีโอตามขนาดของ Bandwidth ได้ ซึ่งการบริการแบบ Adaptive ยังถือว่าเป็นจุดแข็งของ Flash Video ที่ใช้ Flash Media Server และ  Smooth Video ของ Microsoft

3. Browser ของแต่ละค่ายต่างคนต่างสนับสนุนมาตรฐานของตัวเอง ทำให้ผู้ให้บริการไม่อาจคาดเดาได้ว่าผู้ใช้บริการจะใช้ Web Browser ของค่ายใด จำต้องเตรียมไฟล์วิดีโอไว้หลาย format ซึ่งเป็นภาระงานที่มากอยู่

4. หลักการทำงานของ HTML5 Video คือการ Store and Play ไม่ใช่ Progressive Download คือ Browser ต้อง download ไฟล์มาทั้งหมดก่อนแล้วจึงค่อยเล่นจึงไม่เหมาะกับการใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ ในกระบวนการสร้างระบบ Streaming โดยใช้ Progressive Download นั้นสามารถทำได้แต่ต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคหากต้องการสร้างระบบ Streaming ขึ้นมา  อย่างไรก็ดี จากการสำรวจใน USA พบว่าคนสนใจที่จะดูวิดีโอผ่านอินเตอร์เน็ตด้วยความยาวเฉลี่ยที่ 4 - 6 นาทีเท่านั้น ซึ่งความยาวของวิดีโอขนาดดังกล่าวก็ถือว่าไม่ใหญ่เกินไปที่จะให้บริการ

5. ไม่สามารถกำหนดรูปแบบบริการให้เป็นหนึ่งเดียวได้  ยกตัวอย่างเช่นหากท่านใช้ Safari บน Desktop แล้วหากท่านเปิดวิดีโอเรื่องเดิมบน Safari  บน iPhone ก็อาจจะพบข้อความแจ้งว่ามี Error เกิดขึ้นก็ได้ หรือใน Android ก็เช่นกัน จะแตกต่างกันไปตาม Hardware ที่ใช้งาน

เราได้ทดลองหา solution ต้นแบบ ที่จะสร้างระบบบริการ Video หรือ  Video Blog  โดยมีเป้าหมายคือเป็นระบบที่รองรับ Browser และ Devices ให้หลากหลายมากที่สุด (ไม่ทุกชนิด แต่ก็ขอให้มากที่สุด) โดยวิดีโอที่ให้บริการจะเป็น HTML5  Video ซึ่ง solution  นี้เริ่มตั้งแต่ การกำหนด Video Player , การทำ Video Conversion , การทำ Streaming  และการทำ Theme ของเว็บเพจด้วย (ยังมีขั้นตอนอื่นที่เกี่ยวกับการบริหารเนื้อหาอีก) ซึ่งเราได้เปิดให้ชมที่ http://www.n3amedia.info/demo/wp/ 

หมายเหตุ : เนื้อหาวิดีโอที่แสดงไว้ในเว็บจะมีน้อยเพราะเราจะต้องเลือกเอาวิดีโอที่มี creative common license หรือ public domain license เท่านั้น และระบบนี้ไ่ม่ใช่เป็นระบบที่ให้บริการแต่เป็นระบบสาธิตเท่านั้น

ความคิดเห็น