เวลานี้ไปซื้อของที่ไหน ๆ เวลาเห็นตู้กระจกโชว์สินค้าก็มักจะพบกับเทคโนโลยีอันหนึ่งเสมอ นั้นคือ LED Strip หรือที่นิยมเรียกกันว่า LED เส้น แทบจะพูดได้ว่ามาแทนที่การใช้หลอดไฟแบบ Fluorescent เกือบหมด คงเป็นเพราะ
1. LED ให้ความสว่างไม่น้อยกว่า Fluorescent
2. การติดตั้งใช้ต้นทุนต่ำและง่ายกว่ามาก
3. ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง 12 V ไม่อันตรายหากเกิดไฟฟ้ารั่ว และใช้พลังงานต่ำ ประหยัดกว่า
4. ไม่ทำให้เกิดความร้อนมาก พออุ่นๆ สามารถใช้มือจับได้ นึกถึงพนักงานขายที่ต้องยืนอยู่หน้าตู้ทั้งวัน หากตู้ร้อนเพราะหลอดไฟพนักงานและลูกค้าก็ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
5. มีหลายสีให้เลือก สามารถทำ mix and match ได้หลายหลาก
6. ที่สำคัญเลยคือใช้ computer สร้างโปรแกรมให้มีแสดงแสงสีได้อีกมากมายก่ายกอง ตามแต่จะคิดออก
ผมมีตัวอย่างการใช้ LED มาตกแต่งสถานที่จาก Youtube มาให้ดูครับ เพื่อจะได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าเขาเอามาทำอะไรกันบ้าง
กลับเข้าสู่เรื่องที่จะเขียนในวันนี้ ผมว่าจะเอา LED Strip มาทำเรื่องของเครื่องแต่งตัวดูครับ พอดีช่วงที่เขียนอยู่นี้เป็นช่วงเวลาใกล้กับเทศกาลปีใหม่พอดีด้วยครับ เป้าหมายในการทำวันนี้คือการทำ Fancy Hat หรือหมวกหลากสี เพื่อให้ลูกชายใส่ไปงาน Fancy ส่งท้ายปีเก่าที่โรงเรียน หน้าตาที่ออกมาสุดท้ายแล้วจะเป็นดังภาพ
1. LED ให้ความสว่างไม่น้อยกว่า Fluorescent
2. การติดตั้งใช้ต้นทุนต่ำและง่ายกว่ามาก
3. ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง 12 V ไม่อันตรายหากเกิดไฟฟ้ารั่ว และใช้พลังงานต่ำ ประหยัดกว่า
4. ไม่ทำให้เกิดความร้อนมาก พออุ่นๆ สามารถใช้มือจับได้ นึกถึงพนักงานขายที่ต้องยืนอยู่หน้าตู้ทั้งวัน หากตู้ร้อนเพราะหลอดไฟพนักงานและลูกค้าก็ไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่
5. มีหลายสีให้เลือก สามารถทำ mix and match ได้หลายหลาก
6. ที่สำคัญเลยคือใช้ computer สร้างโปรแกรมให้มีแสดงแสงสีได้อีกมากมายก่ายกอง ตามแต่จะคิดออก
ผมมีตัวอย่างการใช้ LED มาตกแต่งสถานที่จาก Youtube มาให้ดูครับ เพื่อจะได้เห็นภาพที่ชัดขึ้นว่าเขาเอามาทำอะไรกันบ้าง
ขั้นตอนการทำ
จัดหาอุปกรณ์
1. ต้องมี LED Strip ก่อนครับ ปัจจุบันหาซื้อได้ง่าย มีหลายราคาให้เลือก บางร้านเขาตัดแบ่งขายเป็นเมตร (เหมือนซื้อผ้า) หากไม่อยากเดินทางไปเลือกเอง ก็หาซื้อตามเว็บไซต์ก็ได้ครับ รูปร่างของ LED Strip จะเป็นดังภาพ บางร้านเขาอาจจะเสนอระบบควบคุมมาด้วยเลย หากท่านไม่ต้องการจะเขียนโปรแกรมควบคุมการแสดงแสงไฟเองก็สะดวกดีครับ แต่วันนี้ผมจะเขียนโปรแกรมเอง และ LED Strip ที่ผมเลือกใช้เป็นแบบ RGB (Red Green Blue) ซึ่งมีสามมีในเส้นเดียวกัน (เพราะต้องการ Fancy Color)
2. เมื่อเราต้องการเขียนโปรแกรมเอง เราก็ต้องมีอุปกรณ์ที่จะช่วยเราเรืองนี้ ผมเลือกใ้ช้ Lilypad Arduino เพราะเบามาก เหมาะกับการใช้งานบนเครื่องแต่งกาย ไม่มีส่วนแหลมคม ผมได้เขียนเรื่อง Lilypad Arduino ไว้ในบทความนี้ครับ ใครที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักก็ลองไปอ่านดูก่อนนะครับ 3. อุปกรณ์อื่น ได้แ่ก่ สายไฟอ่อน กาว หัวแร้ง แบตเตอร์ ขนาด 12 V สำหรับ LED Strip และ 3 V สำหรับ Lilypad Arduino เข็ม ด้าย และก็ หมวก ครับ 4 Transistor สำหรับควบคุมกระแสไฟ อันนี้อาจตัองอาศัยความรู้เรื่องอิเล็กทรอนิกส์สักเล็กน้อย ผมใช้วิธีการสอบถามจากคนที่มีความรู้เอาครับ เพราะลำพังอ่านเอาเองก็ได้ความรู้ระดับหนึ่ง แต่เวลาไปหาซืออาจจะไม่ได้ตามตำรา ก็ต้องให้คนที่รู้มากกว่าช่วยแนะนำให้ ตัว Transistor จะเป็นดังภาพ
เพื่อลดขั้นตอน ท่านอาจเลือกใช้ Transistor เบอร์เดียวกับที่ผมเลือกใช้ก็ได้ครับ (transistor จะมีหมายเลขหรือรหัสกำกับเอาไว้อ้างอิง) จดข้อมูลข้างล่างนี้ไปยื่นให้คนขายตามร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เลยก็ได้ครับ หากไม่มีก็ขอให้พนักงานเลือกเอาตัวที่ใกล้เคีียงหรือใช้แทนกันได้มาให้แทน จะใช้กี่ตัวก็ขึ้นกับว่าเราจะใช้กี่สี กรณีของผมใช้ 3 สี ก็ต้องใช้อย่างน้อย 3 ตัว(ซื้อมากไว้ก่อน เอาไว้กรณีมันเสีย หรือทำโครงงานอื่นต่อ) ครับ
2. ต่อสายไฟเข้ากับขั้วของ LED ทำความเข้าใจก่อนว่า LED Strip มีสองประเภทคือแบบที่มีพลาสติกหุ้มกันความชื้นและแบบที่ไม่มี (ความจริงแล้วมีเคลือบบาง ๆ ไว้) เวลาจะเชื่อมสายไฟต้องเอาพลาสติกออกก่อนนะครับ เอามีด cutter เฉือนออกไปเลยครับ แต่ต้องเบามือนิด หากแรงไปอาจทำให้ขาดได้
3. ทำการเชื่อมสายด้วยหัวแ้ร้งครับ ตอนเชื่อมต้องใจเย็นนิดหนึ่งนะครับ เพราะพื้นที่ในการทำงานมันจำกัด การเลือกใช้สายไฟและหัวแร้งคุณภาพดีหน่อยก็จะช่วยได้เยอะ เสร็จแล้วก็จะออกมาดังภาพ
4. ทดสอบว่าแต่ละ segment ที่เตรียมไว้ใช้งานได้หรือเปล่า โดยการต่อไฟฟ้ากระแสตรง จากแบตเตอรี่หรือจากหม้อแปลง ขนาด 12 V ขั้วบวกเข้ากับสายไฟที่มีป้ายกำกับ 12 V และนำขัวลบมาต่อกับสายไฟที่มีป้ายกำกับ G,R หรือ B เพื่อทดสอบ หากท่าต่อสายไฟผิดพลาดก็ไม่ต้องตกใจนะครับ สาย LED strip มีระบบป้องกันตัวมาระดับหนึ่ีงแล้ว มันไม่เสียหายง่าย ครับ หากหลอดไฟไม่ติดเลยก็ลองสลับสายไฟไปมาก่อนอย่าเพิ่งบอกว่ามันใช้งานไม่ได้
แล้วก็นำแต่ละ segment มาเชื่อมต่่อกันอีกที ดังภาพ
ข้อที่ต้องจำคือ Lilypad ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 2.5 - 5.5 V เท่านั้น ส่วน LED ต้องการ 12 V ห้ามติดตั้งสลับกันเพราะอาจทำให้ Lilypad Arduino เสียหายได้และ LED ก็จะไม่ทำงานด้วย ทดสอบการใช้งาน
ภาพ LED Strip จาก http://www.3plusled.com |
Mosfet รุ่น : IRF530NPBF Size : TO-220AB Continuous Drain Current(Id) : 17A Pulsed Drain Current(Idm) : 60A Power Dissipation(Pd) : 70W Gate-to-Source Voltage(Vgs) : +/- 20V
เตรียมอุปกรณ์
เตรียม LED strip
1. เนื่องจากผมซื้อ LED Strip เป็นม้วนมาเลย (ราคาต่อหน่วยจะถูกกว่าซื้อปลีก) ก็เลยต้องมาตัดออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อให้เหมาะกับขนาดของหมวก LED Strip สามารถนำมาตัดเป็นท่อน ๆหรือว่า Segment ได้ ครับโดยเขาจะมีเครื่องหมายมาให้ว่าสามารถตัดได้ตรงไหนบ้าง หรือเรานับจำนวน LED เอาเองก็ได้ครับ โดยแต่ละ Segment จะมี LED อยู่ 3 ดวง ส่วนประกอบใน 1 segment จะเป็นดังภาพ2. ต่อสายไฟเข้ากับขั้วของ LED ทำความเข้าใจก่อนว่า LED Strip มีสองประเภทคือแบบที่มีพลาสติกหุ้มกันความชื้นและแบบที่ไม่มี (ความจริงแล้วมีเคลือบบาง ๆ ไว้) เวลาจะเชื่อมสายไฟต้องเอาพลาสติกออกก่อนนะครับ เอามีด cutter เฉือนออกไปเลยครับ แต่ต้องเบามือนิด หากแรงไปอาจทำให้ขาดได้
3. ทำการเชื่อมสายด้วยหัวแ้ร้งครับ ตอนเชื่อมต้องใจเย็นนิดหนึ่งนะครับ เพราะพื้นที่ในการทำงานมันจำกัด การเลือกใช้สายไฟและหัวแร้งคุณภาพดีหน่อยก็จะช่วยได้เยอะ เสร็จแล้วก็จะออกมาดังภาพ
4. ทดสอบว่าแต่ละ segment ที่เตรียมไว้ใช้งานได้หรือเปล่า โดยการต่อไฟฟ้ากระแสตรง จากแบตเตอรี่หรือจากหม้อแปลง ขนาด 12 V ขั้วบวกเข้ากับสายไฟที่มีป้ายกำกับ 12 V และนำขัวลบมาต่อกับสายไฟที่มีป้ายกำกับ G,R หรือ B เพื่อทดสอบ หากท่าต่อสายไฟผิดพลาดก็ไม่ต้องตกใจนะครับ สาย LED strip มีระบบป้องกันตัวมาระดับหนึ่ีงแล้ว มันไม่เสียหายง่าย ครับ หากหลอดไฟไม่ติดเลยก็ลองสลับสายไฟไปมาก่อนอย่าเพิ่งบอกว่ามันใช้งานไม่ได้
แล้วก็นำแต่ละ segment มาเชื่อมต่่อกันอีกที ดังภาพ
เตรียม Transistor
เนืองจากผมต้องการให้การแสดงแสงสีบนหมวกไม่ใช่้การปิด - เปิดหลอด LED แต่อยากให้มีการค่อย ๆ สว่างและค่อย ๆ มืดลงด้วย ดังนั้นต้องอาศัย Transistor มาช่วย (รายละเอียดทางเทคนิคนั้นอาจจะยาวและวุ่นวาย ท่านที่สนใจก็สามารถศึกษาได้จากที่นี่ครับ หรือค้นหาโดยใช้คำค้นว่า "N-Channel MOSFET" จาก search engine เองก็ได้) ซึ่ง Transistor มีสามขา แต่ละขามีหน้าที่ต่างกัน ผลการเชื่อมสายไฟแล้วจะออกมาดังภาพ จำนวนที่ต้องเตรียมก็คือเท่ากับจำนวนสีที่ต้องการ ในกรณีนี้คือ 3 ตัวครับ (สำหรับ R, G และ B)รวบรวมอุปกรณ์
หลังจากตัดต่ออะไรเรียบร้อยแล้ว ก็มาตรวจสอบอุปกรณ์กันสักหน่อยว่าครบหรือยังออกแบบโปรแกรมควบคุม (Sketch)
ขั้นตอนต่อจากนี้เป็นเรื่องของท่านที่เข้าใจพื้นฐานการสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ครับ การสร้างโปรแกรมแบบนี้ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไร เพราะงานนี้ยุ่งเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เรียบง่าย ไม่ต้องอาศัยความรู้ระดับมหาวิทยาลัยก็ได้ครับ แต่หากจะให้กล่าวถึงรายละเอียดก็ยาวไปหน่อย ผมขออ้างอิงเว็บไซต์นี้ครั้บ ซึ่งอธิบายไว้ง่าย ดี และมีประโยชน์ดีที่เดียวคือ 1. http://learn.adafruit.com/rgb-led-strips/overview และ 2. http://learn.adafruit.com/digital-led-strip/overview เว็บทั้งสองนี้จะให้รายละเอียดของการสร้างโปรแกรมในระดับหนึ่งแล้วครับ แต่ผมเพิ่มเติมเรื่องของการควบคุมความเข้มของแสงเข้าไปด้วย ซึ่งผมนำมาจากเว็บนี้ http://www.alvyray.com/Papers/CG/hsv2rgb.htm ซึ่งเขาพัฒนาด้วยภาษา C อยู่แล้ว ดังนั้นก็ยกเข้ามาใช้กับ Arduino ได้เลย เพียงแต่เขียน procedure ขึ้นมารองรับไว้เท่านั้นเองครับ การประกอบร่าง เตรียมอุปกรณ์และออกแบบโปรแกรมแล้ว ต่อไปก็ต้องนำอุปกรณ์มาเย็บเข้าหมวกครับ ผมเองไม่มีความสามารถด้านการตัดเย็บเลย เอาแบบง่าย ๆ ขอให้ติดกับหมวกได้ก็พอ และก็หาทางลบส่วนที่เป็นของแหลม คม ออกให้หมด เพราะเด็กเอาไปใช้ต้องระวัง ขั้นตอนการทำงานตรงนี้ขอแสดงด้วยภาพนะครับข้อที่ต้องจำคือ Lilypad ต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียง 2.5 - 5.5 V เท่านั้น ส่วน LED ต้องการ 12 V ห้ามติดตั้งสลับกันเพราะอาจทำให้ Lilypad Arduino เสียหายได้และ LED ก็จะไม่ทำงานด้วย ทดสอบการใช้งาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น